Software ที่เลือกใช้

จากการปรึกษากันในทีมแล้วเลือกใช้ Trello เพราะ

1. ง่ายต่อการเข้าใจและใช้งานแม้ Software ตัวอื่นๆอาจจะมีเครื่องมือมากกว่าแต่ใช้งานได้ยากกว่า
2. สามารถใช้งานบน Web ได้ไม่ต้องติดตั้งหรือหากต้องการติดตั้งเพื่อการใช้งานที่สะดวกมากขึ้นก็ทำได้
3. เหมาะกับ Project ขนาดเล็กจากที่ได้ศึกษาพบว่า Software ตัวอื่นอาจจะใช้งานในระดับ enterprise ได้ดีกว่า
4. เป็น Software ที่สามารถใช้ได้ฟรีโดยในขอบเขตที่มีเครื่องมือเพียงพอสำหรับ Project ขนาดเล็ก

1. Trello

Trello คือเครื่องมือภาพที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมของคุณในการจัดการโปรเจกต์ ขั้นตอนการทำงาน หรือการติดตามงานได้ทุกประเภท เพิ่มไฟล์ รายการตรวจสอบ หรือแม้กระทั่งการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ

Trello Features

-	-
Detailed & Quick Overviews of Front/Back Cards	Easy, Drag-and-Drop Editing
In-Line Editing	Easy Organization with Labeling, Tags, and Comments
Progress Meter Checklist	Card Records Archive
Easy Upload (Local Devices, Dropbox, Google Drive, and Box)	File Attachment
Data Filters	Deadline Alerts and Notifications
Automated Email Notifications	Activity Logs
Individual/Group Task Assignment	Information Backup
Information Retrieval	SSL Data Encryption
Mobile-Friendly Views	Developer API
Customer Support	Individual/Group Task Assignment
Voting Options	Discussions

Features หลักของ Trello

• Detailed & Quick Overviews of Front/Back Cards มีการแสดงผลภาพรวมเป็น board ที่มีรายละเอียดและง่ายต่อการมองภาพรวม
• Activity Logs เป็นการเก็บข้อมูล event logs การทำงานของโปรเจค ช่วยในการ backup ข้อมูล
• Easy, Drag-and-Drop Editing เป็นรูปแบบในการ edit ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน
• Automated Email Notifications ที่ใช้ในการส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกในโปรเจค

จุดเด่นของ Trello

• เป็นซอฟต์แวร์ฟรี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการงานแต่ละส่วนได้เป็นอย่างดี สามารถลดกระบวนการการทำงานบางอย่างลงไปได้
• มีความเป็น CRM สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ เพราะลูกค้าเองสามารถตรวจสอบขั้นตอนการทำงานได้เอง
• ไม่ซับซ้อน UX และ UI สามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจได้ง่าย ใช้งานง่าย ที่สำคัญเร็วมาก
• มีให้เราสามารถใช้งานได้ทั้ง Mobile Apps และบน Website

2. Jira

Jira Software เป็นเครื่องมือจัดการ Project ที่จะคอยเข้ามาช่วยจัดการ Bug tracking, Issue tracking, Agile project management และรวมถึง Plan, Track, Release และทำ Report ได้

Jira Features

-	-
Project and issue tracking	Scrum and kanban support
Backlog prioritization and sprint planning	Flexible workflow
Roadmaps	Agile reporting
Customizable workflows	Customizable workflows
Apps and integrations	Automation
Dependency management	Capacity planning
Project archiving	Storage
Domain verification & account capture	Session duration management (desktop)
Project roles	Advanced permissions
Admin insights	Sandbox
Release tracks	Atlassian Access (SSO, SCIM, Active Directory Sync)
Password policies	Encryption in transit & at rest
Business continuity & disaster recovery	Mobile Device Management
Audit logs	Anonymous access
IP allowlisting	Data residency

Features หลักของ Jira

• Project and issue tracking ช่วยในการจัดการ Project และการติดตามปัญหาและการทำงานที่เกิดขึ้น
• Scrum and kanban support ช่วยการบริหารจัดการเวลาของทีมโปรเจคที่มีขนาดเล็ก ทำให้สามารถโฟกัสกับงานเพื่อทำให้สำเร็จตามกำหนดได้ดีขึ้น
• Roadmaps ช่วยในการกำหนดแนวทางในการพัฒนาให้แก่สมาชิกโปรเจค

จุดเด่นของ Jira

• มีระบบในการติดตามปัญหาและสามารถติดตามโปรเจคที่มีการใช้ third-parties software’s
• เหมาะกับผู้ใช้หลากหลายประเภท เช่น Developers, Project managers, Engineers และ ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้าน Technical โดยจะมี Template ต่างๆให้เลืองใช้อย่างเหมาะสม
• มีส่วนขยาย (add-ons) ให้ใช้จำนวนมาก
• บันทึกกิจกรรมของงานไว้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถตรวจสอบหาต้นตอความผิดพลาดง่ายขึ้น
• สามารถรวบรวมและสรุปข้อมูลที่เกิดขึ้นตามจริงเพื่อใช้ชี้วัดประสิทธิภาพของทีมด้านต่างๆ เป็นข้อมูลที่แม่นยำสำหรับหัวหน้าหรือผู้บริหารสำหรับประเมินประสิทธิภาพ

3. Asana

Asana คือ แอปพลิเคชัน Project Management ที่ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดายภายใน Platform เดียว โดยที่สามารถสร้าง Task ออกมาเป็น Checklist ที่สมาชิกสามารถเช็คได้สะดวก พร้อมตรวจสอบความคืบหน้าของงาน ติดตาม Deadline ของแต่ละงานได้แบบเดือนต่อเดือนอย่างเป็นระบบระเบียบ

Features หลักของ Asana

• Work, project, and task management ที่ช่วย Teamwork ทำงานร่วมกันได้อย่างดีตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจคจนจบโปรเจค ช่วยให้หัวหน้าทีมรู้ว่าใครกำลังทำงานอะไรอยู่
• Communication ไม่พลาดทุกการสื่อสารในทีม รู้ว่ากำลังคุยงานไหนอยู่ สามารถ Comment งานและ Tag เพื่อนร่วมทีมของคุณให้มาร่วมสื่อสารกันใน Task หรือโปรเจคอย่างสะดวก
• Views ด้วยรูปแบบของ Report ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ช่วยให้คุณและทีมของคุณสามารถรู้ Workload, ดู Task, ค้นหา Task, ดู Timeline ของทุกๆ โปรเจคได้
• Integration จับมือร่วมงานกับอีก 100 กว่าแอปพลิเคชัน

จุดเด่นของ Asana

• เหมาะเป็นแพลตฟอร์มในการทำงานและบริหารทีมก็คือการที่เป็น All-in-one Platform
• การจัดการโปรเจค การจัดการงานพร้อม Reporting การสื่อสารระหว่างทีม การควบคุมดูแลโปรเจค รวมไปถึง Integration นั้นที่สามารถทำได้อย่างง่ายได้
• สมาชิกสามารถเช็คได้สะดวก พร้อมตรวจสอบความคืบหน้าของงาน ติดตาม Deadline ของแต่ละงานได้แบบเดือนต่อเดือนอย่างเป็นระบบระเบียบ
• สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Productivity ตัวอื่นๆ อีกมากมาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถรวบรวมสถิติและข้อมูล Performance ของเมมเบอร์ด้วย

4. Redmine

Redmine เป็นเว็บแอพพลิเคชั่นสำหรับทำ Project Management พัฒนาโดยใช้ Ruby on Rails framework จุดเด่นอยู่ที่ความง่ายในการปรับแต่งการใช้งาน และเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สใช้สัญญาอนุญาติแบบ GNU General Public License v2 (GPL)

Redmine Features

-	-
Issue tracking	Multiple projects support
Flexible issue tracking system	Gantt chart and calendar
Per project wiki and forums	News, documents & files management
Repository browser and diff viewer	Time tracking functionality

จุดเด่นของ Redmine

• สามารถสร้าง custom field สำหรับ issues, projects และข้อมูล users เองได้
• มี SCM Integration (SVN, CVS, Git, Mercurial, Bazaar และ Darcs)
• รองรับระบบฐานข้อมูลหลากหลาย (MySQL, PostgreSQL or SQLite)
• ปรับแต่งในการกำหนดสิทธิ์ได้ง่าย โดยใช้ role based
• สนับสนุนหลายภาษา

5. Notion

Notion เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คนบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวและช่วยให้ธุรกิจบริหารจัดการงาน ซึ่งจุดเด่นที่ทาง Notion พยายามที่จะโฆษณาคือมันเป็นทั้งเครื่องมือที่ช่วยทั้งเรื่องของ Notes, Tasks, Wikis และ Databases

Features หลักของ Notion

• Notes & Doc ช่วยในการจด Task งานต่าง ๆ หรือ To Do List ในแต่ละวัน (ทำเป็น Checklist ได้) ซึ่งทาง Notion กล่าวว่าแค่ตัว Notion ก็สามารถเข้ามาแทนที่การทำงานของ Google Docs, Evernote หรือแอปสำหรับจดบันทึกอื่น ๆ ได้เลย
• Task Management ที่ใน Notion ก็มีไม่น้อยหน้าเครื่องมือตัวอื่น ๆ ที่เราได้กล่าวไป โดย Notion สามารถจัดรูปแบบมุมมองได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Kanban Board, List, Table และรูปแบบอื่น ๆ ที่เราสามารถกำหนดได้ ตาม Workflow ของการทำงาน
• Teamwork เป็นเหมือนฟีเจอร์ในการรวมทั้งทีมให้อยู่ในแพลตฟอร์มพื้นที่เดียวกัน มีประโยชน์ในการจัดการ Project ที่ต้องการจะแจ้งข่าวสาร ความคืบหน้า ทิศทางในอนาคตรวมถึง Roadmap ของแต่ละโปรเจกต์ หรือจะแบ่งเป็นแผนกแต่ละแผนกในบริษัทก็ได้เหมือนกัน
• SpreadSheets & Databases สำหรับเก็บข้อมูลของตัวโปรเจค หรือ flow การทำงาน

จุดเด่นของ Notion

• มี features การทำงานที่หลากหลายไม่ได้ถูกออกแบบมาแค่เพื่อให้จดโน้ตเท่านั้น Notion ยังสามารถช่วยให้คุณจัดการ Task สร้าง Wiki หรือสร้าง Data Base ได้ด้วย
• มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากมี features ที่หลากหลายทำให้รูปแบบในการใช้งานมีความหลากหลาย ยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
• การเชื่อมต่อกับแพล็ตฟอร์มอื่น Notion เชื่อมต่อกับ Productivity Software อื่นอีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็น Slack, Invision, Github)